สุดยอดมือกีต้าร์ของเมืองไทย

              สุดยอดมือกีต้าร์ของเมืองไทย

แหลม มอริสัน " กีตาร์คิง "






โอฬาร พรหมใจ
เป็นผู้ก่อตั้งและกุมบังเหียน
The Olarn Project
ปลุกกระแสกีตาร์อย่างมากกว่าทศวรรษมาแล้ว







กิตติ กาญจนสถิตย์ เจ้าของฉายา กิตติ กีตาร์ปืน 
นักกีตาร์ร็อก อดีตหัวหน้าวงคาไลโดสโคป 
มีเอกลักษณ์คือ ใช้กีตาร์ไฟฟ้าที่สั่งผลิตพิเศษเป็นรูปปืน

 








ชัคกี้ ธัญญารัตน์ มือกีต้าร์ที่ฝีมืออินเตอร์อีกคนหนึ่งของประเทศไทย







ปรีชา ชนะภัย หรือที่รู้จักกันในชื่อ เล็ก คาราบาว







จักรรินทร์ ดวงมณีรัตนชัย  POP THE SUN 

นิทานเรื่อง ชายชรากับลังเหล็ก

นิทานเรื่อง ชายชรากับลังเหล็ก

                  

                กาลครั้งหนึ่ง ยังมีคุณลุงอยู่ท่านหนึ่ง ในช่วงวัยหนุ่มคุณลุงท่านนี้เป็นหัวหน้าคนงานอยู่ในเหมืองทองคำมีรายได้ดีมาก  แต่คุณลุงท่านนี้ไม่เคยเก็บเงินเลยมีเท่าไรก็ใช้หมด 

           เนื่องจากคุณลุงเป็นคนจิตใจดีใครมาหยิบยืมก็ให้ เลี้ยงเพื่อนฝูงตลอด คุณลุงมีเพื่อนเยอะมาก จนกระทั่งคุณลุงท่านนี้เกษียณอายุจากการทำงาน ปรากฏว่าไม่มีเงินเหลือเลยจากชีวิตการทำงานอันยาวนาน คุณลุงมีลูกอยู่ 5 คน 

           เมื่อคุณลุงไม่มีเงินก็จำเป็นต้องไปอาศัยอยู่บ้านลูกๆ ทั้ง 5 คนวันจันทร์ ก็ไปอยู่บ้านลูกสาว ก็ถูกลูกเขยพูดจากระทบกระเทียบ เช่น "ทำไมคุณพ่อคุณไม่ไปบ้านลูกคนอื่นบ้างนะ ผมจะทำอะไรก็อึดอัดจริงๆ "วันอังคาร ก็ไปอยู่บ้านลูกชาย ก็ถูกหลาน และลูกสะใภ้กระทบกระเทียบ เช่น "รำคาญคุณปู่จังเลยกับข้าวที่หนูชอบดูสิคุณปู่ทานหมดเลย ทำไมคุณปู่ไม่ไปบ้านอื่นบ้าง" เป็นเช่นนี้ตลอด คุณลุงก็เปลี่ยนไปอยู่บ้านลูกคนนั้นทีคนนี้ที ก็ถูกลูกบ้าง ลูกเขยบ้าง ลูกสะใภ้บ้าง หลานบ้างพูดจาถากถางอยู่ตลอด แต่คุณลุงก็ต้องทน เพราะคุณลุงไม่มีเงินเก็บแม้แต่บาทเดียว 

             อยู่มาวันหนึ่ง คุณลุงตัดสินใจเรียกลูกๆ ทุกคนมาแล้วบอกว่า "พ่อจะไม่อยู่สัก 2 ปีนะลูก เพราะเพื่อนพ่อที่เป็นเจ้าของเหมืองทองคำมันเขียนจดหมายมาขอร้องให้พ่อไปช่วยงานที่เหมืองทองคำของมัน พ่อจำเป็นต้องไปช่วยเขาจริงๆ" ลูกๆ ได้ฟังดังนั้นก็ดีใจสนับสนุนเพื่อให้คุณลุงท่านนี้ไปให้พ้นๆ จะได้ไม่เป็นภาระอีกต่อไป

                 เมื่อครบ 2 ปี คุณลุงท่านนี้ก็กลับมาพร้อมกับลังเหล็กใบใหญ่ 1 ใบ ไปไหนแกก็ลากไปด้วย ลูกๆ ก็พากันแปลกใจและถามว่า "ลังอะไร" คุณลุงตอบว่า "เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่ได้มาจากเหมืองทองคำของเพื่อน ถ้าใครดูแลพ่อจนถึงวาระสุดท้ายก็จะมอบสมบัติในลังเหล็กให้ทั้งหมด" ปรากฏว่า ลูกๆ พากันตื่นเต้น ต่างอาสามาดูแลคุณพ่อกันยกใหญ่วันจันทร์ คุณลุงก็อยู่กับลูกสาวคนโต ลูกเขยกับหลานก็พากันเอาใจบีบนวดให้ หาของกินดีๆ มาให้ แต่ยังไม่ทันไรลูกชายคนที่สองก็มาตามให้ไปอยู่ด้วย และก็เช่นกันยังไม่ทันไร ลูกสาวคนที่สาม ก็มาตามให้ไปอยู่ด้วยอีก ปรากฏว่าลูกๆ ทั้ง 5 คน ของคุณลุงต่างแย่งกันเอาใจและปรนนิบัติคุณลุงท่านนี้อย่างดี แต่เวลาไปไหนคุณลุงก็จะลากลังเหล็กใบนี้ไปด้วยตลอดเวลาผ่านไป 7 ปี คุณลุงท่านนี้เสียชีวิตลง หลังงานพิธีศพลูกๆ ทุกคนพากันมานั่งล้อมลังเหล็กใบนี้เพื่อแบ่งสมบัติกัน ลูกสาวคนโตเป็นคนเปิดฝาลังเหล็ก พบว่ายังมีผ้าสีขาวปิดอยู่อีกชั้นหนึ่ง และมีจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่ ลูกสาวคนโตก็เปิดอ่านให้น้องๆ ฟัง เนื้อความในจดหมายเขียนไว้ว่า

             นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าประมาทและอย่าคาดหวังว่าใครจะเลี้ยงดูเรา ให้เร่งเก็บออมเสียตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้มี     ชีวิตบั้นปลายที่สุขสบายได้ฟังนิทานเรื่องนี้ทีไรให้รู้สึกสะท้อนใจทุกครั้ง และไม่เคยคิดว่า เป็นเพียงนิทานเพราะเหตุการณ์แบบนี้อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่ไม่เตรียมเก็บออมเงินเสียตั้งแต่เนิ่นๆ ....พึ่งพาใครไหนเรา..จะดีเท่าพึ่งพาตัวเราเอง

ฟ้าทะลายโจร

ฟ้าทะลายโจร

 

ฟ้าทะลายโจรกับไข้หวัด ฟ้าทะลายโจรเป็นยาที่มีความหมายในตัวเองไม่น้อย เพราะแม้แต่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ฟ้าประทานมาให้ปราบโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ซึ่งเปรียบเสมือนเหล่าโจรร้าย ส่วนในภาษาจีนกลาง ยาตัวนี้มีชื่อว่า "ชวนซิเหลียน" แปลว่า "ดอกบัวอยู่ในหัวใจ" ซึ่งมีความหมายสูงส่งมาก วงการแพทย์จีนได้ยกฟ้าทะลายโจรขึ้นทำเนียบ เป็นยาตำราหลวงที่มีสรรพคุณโดดเด่นมากตัวหนึ่ง ที่สำคัญคือสามารถใช้เป็นยาเดี่ยวเพียงตัวเดียวก็มีฤทธิ์แรงพอที่จะรักษาโรคได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากในสมุนไพรตัวอื่น ชื่ออื่นๆ ของฟ้าทะลายโจรได้แก่ หญ้ากันงู (สงขลา) น้ำลายพังพอน ฟ้าสาง (พนัสนิคม) เขยตายยายคลุม สามสิบดี (ร้อยเอ็ด) เมฆทะลาย (ยะลา) ฟ้าสะท้าน (พัทลุง)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

           ฟ้าทะลายโจรเป็นไม้ล้มลุก สูง 30-70 ซม. ทุกส่วนมีรสขม กิ่งเป็นใบสี่เหลี่ยม ใบ เดี่ยว แผ่นใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ดอก ช่อ ออกที่ปลายกิ่ง และซอกใบ ดอกย่อย กลีบดอกสีขาว โคนกลีบติดกัน ปลายแยก 2 ปาก ปากบนมี 3 กลีบ มีเส้นสีม่วงแดงพาดอยู่ ปากล่างมี 2 กลีบ ผล เป็นฝัก เมื่อแก่เป็นสีน้ำตาล แตกได้ ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก ส่วนที่ใช้เป็นยา ได้แก่ ทั้งต้น ใบสด ใบแห้ง ใบจะเก็บมาใช้เมื่อต้นมีอายุได้ 3-5 เดือน

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์

1. ใบฟ้าทะลายโจร มีสารเคมีประกอบอยู่หลายประเภท แต่ที่เป็นสาระสำคัญในการออกฤทธิ์ คือ สารกลุ่ม Lactone คือ สารแอดโดรกราโฟไลด์ (andrographolide) สารนีโอแอนโดรกราโฟไลด์ (neo-andrographolide) 14-ดีอ๊อกซี่แอนโดรกราโฟไลด์ (14-deoxy-andrographolide)
2. ฟ้าทะลายโจรเป็นยาเก่าแก่ของประเทศจีน ใช้ในการรักษาฝี แก้อักเสบ และรักษาโรคบิด การวิจัยด้านเภสัชวิทยาพบว่า ฟ้าทะลายโจรสามารถยับยั้ง เชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของการเป็นหนองได้ และมีการศึกษาวิจัยของโรงพยาบาลบำราศนราดูร ถึงฤทธิ์ในการรักษาโรคอุจจาระร่วงและบิด แบคทีเรีย เปรียบเทียบกับ เตตราซัยคลิน ในผู้ป่วย 200 ราย อายุระหว่าง 16-55 ปี ได้มีการเปรียบเทียบระยะเวลาที่ถ่ายอุจจาระเหลว จำนวนอุจจาระเหลว น้ำเกลือที่ให้ทดแทนระหว่างฟ้าทะลายโจรกับเตตราซันคลิน พบว่าสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ลดจำนวนอุจจาระร่วงและจำนวนน้ำเกลือที่ให้ทดแทนอย่างน่าพอใจ แม้ว่าจากการทดสอบทางสถิติ จะไม่มีความแตกต่างทางนัยสำคัญก็ตาม ส่วนการลดเชื้ออหิวาตกโรคในอุจจาระ ฟ้าทะลายโจรไม่ได้ผลดีเท่าเตตราซัยคลิน นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลชุมชนบางแห่งได้ใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาอาการเจ็บคอได้ผลดีอีกด้วย มีฤทธิ์เช่นเดียวกับเพนนิซิลินเมื่อเทียบกับยาแผนปัจจุบัน เท่ากับเป็นการช่วยให้มีผู้สนใจทดลองใช้ยานี้รักษาโรคต่างๆ มากขึ้น
3. ฟ้าทะลายโจรมีกลไกการออกฤทธิ์ 3 ประการ ได้แก่ ฤทธิ์ลดไข้ ต้านการอักเสบ และลดอาการจากการหวัด พบว่ามีฤทธิ์ลดการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสและทำให้ความสามารถของเชื้อไวรัสในการเกาะติดกับผนังเซลล์ลดลง ทำให้เชื้อไวรัสเข้าสู่เซลล์ได้ยากขึ้น นอกจานี้ฟ้าทะลายโจรยังมีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทำให้มีร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้ดีขึ้น
4. ฟ้าทะลายโจรเป็นยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติของประเทศไทย โดยมีข้อบ่งใช้ในการบรรเทาอาการของโรคหวัด (common cold) เช่น เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ น้ำมูกไหล และบรรเทาอาการท้องเสียชนิดไม่ติดเชื้อ

ความปลอดภัย
         ฟ้าทะลายโจรมีการทดสอบความเป็นพิษที่ครบถ้วนทั้ง 3 ระยะ ได้แก่ พิษเฉียบพลัน พิษกึ่งเรื้อรัง และพิษเรื้อรัง พบว่าฟ้าทะลายโจรมีความปลอดภัยในการรับประทานในระยะยาว ข้อควรรู้เกี่ยวกับตำรับยา สารแอนโดรกราโฟไลด์ (andrographolide) สารในต้นฟ้าทะลายโจร ละลายในแอลกอฮอร์ได้ดีมาก ละลายในน้ำได้น้อย ดังนั้นยาทิงเจอร์ หรือยาดองเหล้าฟ้าทะลายโจร จึงมีฤทธิ์แรงที่สุด ยาชงมีฤทธิ์แรงรองลงมา ยาเม็ดมีฤทธิ์อ่อนที่สุด
ตามทฤษฏีการแพทย์แผนไทย และแผนจีนจัดฟ้าทะลายโจรเป็นยารสเย็น หมายถึง เมื่อรับประทานฟ้าทะลายโจรแล้วทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง จึงนำมาใช้เป็นยาลดไข้ ซึ่งเมื่อรับประทานยาเย็นติดต่อกันนานๆ แต่นานเท่าใด ในทางการแพทย์ไม่สามารถระบุได้เนื่องจากขึ้นกับธาตุพื้นฐานของร่างกาย ถ้าร่างกายมีความเย็นมากก็อาจเกิดได้เร็ว แต่ถ้าร่างกายมีความร้อนสะสมมากก็อาจจะเกิดช้า) ก็อาจจะทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ แขนขาชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือความเข้มข้นของเลือดลดลง อาการต่างๆ เหล่านี้สามารถกลับมาสู่ปกติได้เมื่อหยุดรับประทานยารสเย็น ซึ่งจากรายงานการวิจัยต่างๆ ของฟ้าทะลายโจรก็ไม่พบผลข้างเคียงดังกล่าว


ข้อบ่งใช้

1. ฟ้าทะลายโจรควรใช้เมื่อมีอาการของหวัดอาการใดอาการหนึ่ง เช่น เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือมีน้ำมูก โดยอาการเจ็บคอรับประทานครั้งละ 3-6 กรัมวันละ 4 ครั้ง ส่วนการบรรเทาอาการหวัดให้รับประทานครั้งละ 1.5-3 กรัมวันละ 4 ครั้ง โดยแนะนำให้รับประทานติดต่อกันไม่เกิน 7 วัน หากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์
2. ระงับอาการอักเสบ หลอดลมอักเสบ ขับเสมหะ
3. รักษาอาการปวดท้อง ท้องเสีย บิด และกระเพาะลำไส้อักเสบ
4. เป็นยาขมเจริญอาหาร

ข้อควรระวัง

1. ฟ้าทะลายโจรอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเดิน ปวดเอว หรือวิงเวียนศีรษะ ใจสั่น ในผู้ป่วยบางราย หากมีอาการดังกล่าว ควรหยุดใช้ฟ้าทะลายโจร
2. หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้แขนขามีอาการชาหรืออ่อนแรง
3. หากใช้ฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน 3 วัน แล้วไม่หาย หรือมีอาการรุนแรงขึ้นระหว่างใช้ยา ควรหยุดใช้ และไปพบแพทย์
4. สตรีมีครรภ์ไม่ควรใช้ฟ้าทะลายโจร การที่ห้ามใช้ในสตรีตั้งครรภ์และให้นมบุตร เนื่องจากมีการศึกษาในหนูทดลองพบว่าน้ำต้มฟ้าทะลายโจรมีผลทำให้หนูแท้งได้
5. แม้ว่าฟ้าทะลายโจรจะมีประโยชน์ในการรักษาโรคอย่างกว้างขวาง และดูเหมือนจะมีพิษน้อย แต่เนื่องจากเป็นยาเย็นจัด การกินฟ้าทะลายโจรรักษาโรคนานๆ ติดต่อกันหลายปีอาจจะเกิดอาการข้างเคียงได้ เช่น มีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย แขนขาไม่มีแรง เป็นต้น

การปลูกฟ้าทะลายโจร
          การปลูกฟ้าทะลายโจรทำได้หลายวิธี ได้แก่ แบบหว่าน ซึ่งสิ้นเปลืองเมล็ด และให้ผลผลิตน้อย แบบโรยเมล็ดเป็นแถว ประมาณ 50-100 เมล็ดต่อความยาวร่อง 1 เมตร แบบหยอดหลุม ระยะระหว่างต้น 20-30 ซม. ระหว่างแถว 40 ซม. หยอดเมล็ดหลุมละ 5-10 เมล็ด หรืออาจปลูกโดยใช้กล้า จะให้ผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่าการปลูกโดยสามวิธีแรก สำหรับการเก็บเกี่ยว ช่วงที่พืชออกดอกนับตั้งแต่เริ่มออกดอกจนถึงดอกบาน 50% เพื่อให้มีปริมาณสารสำคัญสูง ซึ่งพืชจะมีอายุประมาณ 110-150 วัน การทำความสะอาด ให้นำฟ้าทะลายโจรมาล้างน้ำให้สะอาด ตัดให้มีความยาว 3-5 ซม. ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ แล้วนำมาเกลี่ยบนกระด้งหรือถาดที่สะอาด การทำให้แห้ง อบที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียสใน 8 ชั่วโมงแรก ต่อไปใช้อุณหภูมิ 40-50 องศาเซลเซียส อบจนแห้งสนิท หรือตากแดดจนแห้งสนิท ทั้งนี้ควรคลุมภาชนะด้วยผ้าขาวบาง

            
                วีดีโอนี้เหมาะสำหรับผู้ที่อยากศึกษาเกี่ยวกับกีต้าร์คลาสสิคขั้นพื้นฐานว่าก่อนที่เราจะเล่นนั้นควรรู้อะไรก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่การฝึกเล่นกีต้าร์คลาสสิค อย่างถูกต้องด้วยตนเอง สอนโดยผู้มีประสบการณ์ ในการสอนกีต้าร์คลาสสิค จากสถาบันชั้นนำของประเทศไทยสื่อการสอนชุด บทฝึกกีต้าร์คลาสสิค เนื้อหาประกอบไปด้วยองค์ความรู้ทางด้านทักษะในการปฎิบัติ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่จะสอบเข้าในระดับอุดมศึกษา นอกจากนี้ยังได้รวบรวมบทสรุปของจังหวะ (rhythm) ในแบบฉบับกีต้าร์คลาสสิค แบบฝึกหัด slur, tie โน้ตสามพยางค์ บทเพลงกีต้าร์ที่บรรเลงร่วมกับเครื่องดนตรีชนิดต่างๆ คีตกวี ตลอดจนโครงสร้างของ mode และ scales

สูตรการทำเทียนหอมเพื่อสุขภาพ

         สูตรการทำเทียนหอมเพื่อสุขภาพ

ส่วนผสมของเทียนหอมสปาเพื่อการบำบัดสุขภาพ - สูตรที่ 1

• พาราฟิน   1 กิโลกรัม
• บีแว็กซ์   1 ขีด
• แผ่นสีเทียน   สีตามต้องการ
• น้ำมันหอมระเหย (เลือกกลิ่นตามที่ต้องการเพื่อการบำบัดสุขภาพตามแต่ชนิดของน้ำมันหอมระเหย)   2 ซีซี
• ไส้เทียน   1 เส้น
• พิมพ์รูปแบบต่าง ๆ   ตามต้องการ

วิธีทำเทียนหอมสปาเพื่อการบำบัดสุขภาพ

1. ผสมพาราฟินและบีแว๊กซ์ในสัดส่วนที่เท่ากัน ถ้าชั่งเป็นน้ำหนักให้ใช้สัดส่วน พาราฟิน 100 กรัม ต่อ บีแว็กซ์ 30 กรัม ต้มจนหลอมละลายเข้ากัน
2. ผสมสี ใช้แผ่นสีเทียนหรือสีมัตสุตะ ผสมให้เข้ากันดี ยกหม้อลงจากเตา
3. ใส่น้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบ ผสมทิ้งให้ส่วนผสมเย็นลงเล็กน้อย (สังเกตุดูเทียนจะเริ่มขุ่น)
4. จากนั้นใส่ไส้เทียนในพิมพ์ให้ยาวพ้นพิมพ์ประมาณ 4-5 ซม. เทเทียนที่ยังร้อนอยู่ในพิมพ์ รอจนเทียนเย็น จึงค่อยแกะออกจากพิมพ์

 ส่วนผสมของเทียนหอมสปาเพื่อการบำบัดสุขภาพ - สูตรที่ 2

• พาราฟิน   1 กิโลกรัม
• เทียนเหนียว   1 ขีด
• สีเทียนหรือสีน้ำมันผง
• น้ำมันหอมระเหย (เลือกกลิ่นตามที่ต้องการเพื่อการบำบัดสุขภาพตามแต่ชนิดของน้ำมันหอมระเหย)   15 ซีซี
• ไส้เทียน   1 เส้น
• พิมพ์รูปแบบต่าง ๆ   ตามต้องการ

วิธีทำเทียนหอมสปาเพื่อการบำบัดสุขภาพ

1. นำพาราฟินใส่หม้อตั้งไฟจนละลายจากนั้นใส่บีแว๊กซ์และเทียนเหนียวลงไป พอละลายเข้ากันดีให้ใส่สีเทียนหรือสีน้ำมันผง โดยผสมให้เป็นสีอ่อนหรือเข้มตามที่ต้องการ ยกหม้อลงจากเตา
2. ใส่น้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบ ผสมทิ้งให้ส่วนผสมเย็นลงเล็กน้อย (สังเกตุดูเทียนจะเริ่มขุ่น)
3. จากนั้นใส่ไส้เทียนในพิมพ์ให้ยาวพ้นพิมพ์ประมาณ 4-5 ซม. เทเทียนที่ยังร้อนอยู่ในพิมพ์ รอจนเทียนเย็น จึงค่อยแกะออกจากพิมพ์
    

 ข้อควรระวังขณะทำเทียนหอมสปาเพื่อการบำบัดสุขภาพ

1. อย่าต้มเทียนในอุณหภูมิที่สูงเกินกว่า 100 องศาเซลเซียส เพราะน้ำเทียนจะติดไฟได้ง่าย
2. ถ้าเทียนที่กำลังต้มอยู่ติดไฟ อย่าตกใจ ให้ปิดแก็ส หรือดึงปลั๊กไฟออกทันที อย่าเคลื่อนย้ายหม้อต้มเทียน หรือใช้น้ำดับไฟ หากต้องการดับไฟที่ติดเทียน ให้ปิดฝาหม้อหรือใช้ผ้าชื้น ๆ ปิดคลุมฝาหม้อไว้
3. ถ้าเทียนหกบนพื้นหรือโต๊ะ ต้องคอยจนกว่าเทียนเย็นหรือแข็งตัว แล้วจึงขูดออก
4. อย่าเทเทียนเหลวลงในท่อน้ำ เพราะจะทำให้ท่อน้ำอุดตัน
5. เศษของเทียนที่เหลือให้เก็บรวบรวมไว้ มาผสมต้มเทียนใหม่ได้

ส่วนผสมเพิ่มเติมของเทียนหอมสปาเพื่อการบำบัดสุขภาพ

• สเตียริน (Stearin) คือ แว็กซ์แข็งสีขาวใช้เป็นส่วนผสมของพาราฟิน ประมาณ 10% เพื่อเพิ่มการหดตัวในการเทียนหล่อ ทำให้เทียนหลุดจากแม่พิมพ์ง่าย เทียนจะเป็นเงาและมีสีสดใส
• พี.อี. (Polyester Easterien) ใช้ประมาณ 5-10% ของน้ำหนักพาราฟิน จะช่วยให้เทียนแข็งตัวและจุดติดไฟได้นานขึ้น ที่สำคัญเมื่อจุดเทียนจะมีควันน้อย
• ขี้ผึ้ง (Beeswax) คือ แว็กซ์จากธรรมชาติมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ใช้ผสมกับพาราฟิน ประมาณ 1% เพื่อเพิ่มระยะเวลาเผาไหม้ของเทียน และช่วยทำให้สีของเทียนสดขึ้น
• สี ช่วยทำให้เทียนมีสีสวยงาม น่าใช้
• น้ำมันหอมระเหย ช่วยทำให้เทียนมีกลิ่นหอมตามต้องการ เพื่อการบำบัดสุขภาพตามแต่ชนิดของน้ำมันหอมระเหย

 เทคนิคการตกแต่งเทียนหอมสปาเพื่อการบำบัดสุขภาพแบบง่าย ๆ

   - หั่นแผ่นสีเทียนเป็นชิ้นสามเหลียมเล็ก ๆ หรือรูปแบบตามที่ต้องการ แล้วโรยในพิมพ์ จากนั้นจึงเทเทียนที่ผสมแล้วลงในแม่พิมพ์ ควรใช้ชิ้นสีหลาย ๆ สี และเลือกสีที่เข้มกว่าสีเทียนที่จะเท เพื่อให้สีต่าง ๆ สามารถมองทะลุเทียนออกมาได้
   - ตกแต่งพื้นผิวด้านนอกของเทียนเป็นรูปดอกไม้หรือรูปแบบที่ต้องการ ให้ตกแต่งที่ละด้าน จุ่มเทียนที่ตกแต่งในน้ำเทียนบาง ๆ หรือนาบด้วยมีดหรือโลหะที่ร้อน แล้วนำไปติดข้างในพิมพ์ จากนั้นจึงเทเทียนที่ผสมแล้วลงไป
   - การทำเทียน 2 สี หรือหลายสี ให้เทเทียนสีที่ 1 ลงไปในพิมพ์ ปล่อยให้เทียนเกือบแข็งตัว สังเกตุดูเนื้อเทียนจะมีสีขุ่นมาก แล้วเทเทียนสีที่ 2 ลงไป อาจทำสลับกันเป็นชั้น ๆ หลากสีตามต้องการ ที่สำคัญคือต้องทิ้งให้แต่ละชั้นเย็นตัวเสียก่อน แต่ไม่แข็ง
   - วิธีทำใส้เทียนให้แข็ง ทำได้โดยนำใส้เทียนจุ่มลงในพาราฟินที่ต้มละลายแล้ว จากนั้นดึงไส้เทียนให้ตึง พอแห้งจะได้ใส้เทียนเป็นเส้นตรง ตัดความยาวตามที่ต้องการ

นิทานเรื่อง ความยุติธรรม

ค

 น

มีครอบครัวหนึ่งพ่อชื่อทอง แม่ชื่อเข็ม นายทองมีลูกสาวสวยอยู่ 2 คนและสาวผองมักจะมีหนุ่มมาจีบสับเปลี่ยนวันกันประจำ คือถ้าวันนี้เป็นของสาวกอง
คนพี่ชื่อกอง คนเล็กชื่อผอง ปกตินายทองเป็นคนที่หวงลูกสาวมาก สาวกอง
พรุ่งนี้ก็เป็นวันของสาวผอง พวกหนุ่มๆในหมู่บ้านนั้นก็เข้าใจ

แฟนของสาวกองนั้นดีดพิณ แฟนของสาวผองเป่าแคน แต่คืนวันนั้นได้ยินทั้ง
เสียงแคนและเสียงพิณ พี่น้องเลยเกี่ยงกันเข้านอน นายทองจึงโมโหไล่ลูกสาวเข้านอนทั้งสองคน
หนุ่มๆก็ไม่พอใจ พอตกดึกหนุ่มหนึ่งเลยแอบขึ้นไปบนบ้านแล้วขี้ใส่ไว้บนเขียงในครัว

พี่น้องตื่นขึ้นมาตอนเช้าต่างก็เกี่ยงกันทำความสะอาด ต่างก็โทษว่าแฟนของอีกฝ่าย
เป็นคนขี้ พ่อแม่ได้ยินจึงลุกออกมาดู นายทองเดินไปเอามีดโต้มาแล้วฟันฉับลงไป
ตรงกลางขี้พร้อมกับพูดว่า

"อีกองเมี่ยนส่วนนี้ อีผองเมี่ยนส่วนนั้น แม่มึงล้างเขียง กูสิล้างมีด ไป๊"

อธิบายคำ เมี่ยน หมายถึง ล้าง,ทำความสะอาด มีดโต้ หมายถึง พร้าโต้ มีดใหญ่ ใช้สำหรับผ่าไม้ตัดฟืน ตั ด หิ น

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งตั้งอยู่ที่เชิงเขาสูงเสียดฟ้า ผู้คนในหมู่บ้านเชื่อกัน

ให้เห็น

และประทานพรให้สมหวัง ทุกอย่างตามประสงค์

MV เรารักแม่

เรารักแม่ ฉบับภาพวาด

จัดทำโดย 

นายณัฐพล  วิภาคะ  รหัส  533410030225

นายพลวัตน์  ยอดบุญมา  รหัส 533410030234

นายฤทธิศร  อุตรัศมี   รหัส  533410030238

สุภาษิต-คำพังเพย

สุภาษิต-คำพังเพย

                         ความหมาย  ทำอะไรหลายอย่างในเวลาเดียวกันอาจไม่สำเร็จสักอย่าง

 ที่มา  การจับปลาต้องจับที่ละตัวโดยใช้สองมือจับให้มั่น ถ้าจับพร้อมกันด้วยมือข้างละตัว ปลาอาจหลุดมือไปทั้งสองตัว

     อย่าจับปลาสองหัตถ์จะพลัดพลาด   จับให้ลงคงให้ขาดว่าเป็นผั

จึงนับว่าคนดีไม่มีมัว                            ถ้าชายชั่วร้างไปมิใช่ชาย

กระต่ายหมายจันทร์  หมายถึง  หวังในสิ่งที่เกินตัว

ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปิด หมายถึง ความชั่ว หรือความผิดร้ายแรงที่คนทั่วไปรู้จักกันทั่วแล้ว จะปิด

ยังไงก็ปิดไม่มิด

ปลาใหญ่กินปลาเล็ก หมายถึง ประเทศหรือคนที่มีอำนาจหรือผู้ใหญ่ที่กดขี่ข่มเหงผู้อ่อนแอหรือผู้น้อย   

สอนไล่สเกล

                   การไล่สเกล3โน๊ตในหนึ่งสายเป็นที่นิยมใช้กันมากในพลงยุคนี้ ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับมือกีตาร์มือใหม่ที่จะเริ่มเล่นเพลงแนวRockและยังมีอีกมากมายที่ควรศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของสเกล นี่เป็นแค่หนึ่งตัวอย่างที่นำมาให้ดูเพื่อที่จะเป็นแนวทางที่จะฝึกตัวเองในขั้นต่อไป

         

                    สเกลเพนทาโทนิกให้มีพิษสงการเล่นสเกลมีหลายรูปแบบ แต่ที่นิยมเล่นกันมากที่สุดคือ สเกลเพนทาโทนิก (Pentatonic Scale) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า บันไดเสียงเพนทาโทนิก เพราะสามารถนำไปเล่นกับเพลงได้หลากหลายสไตล์ หากรู้วิธีการใช้สเกลเพนทาโทนิกแล้ว ผู้เล่นจะสามารถสร้างแนวทางใหม่ๆ ในการเล่นกีต้าร์ได้หลากหลายรูปแบบ ส่งผลให้สำเนียงที่ออกมานั้นชัดเจนและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นนำไปเล่นกับเพลงได้หลากหลายสไตล์ หากรู้วิธีการใช้สเกลเพนทาโทนิกแล้ว ผู้เล่นจะสามารถสร้างแนวทางใหม่ๆ ในการเล่นกีต้าร์ได้หลากหลายรูปแบบ ส่งผลให้สำเนียงที่ออกมานั้นชัดเจนและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

อาถรรพ์ความตายกับอายุ 27

อาถรรพ์ความตายกับอายุ 27

 โรเบิร์ต จอห์นสัน (8 พ.ค. 1911 - 16 ส.ค. 1938) 

             จุดเริ่มต้นในตำนาน “อาถรรพ์ อายุ 27” เริ่มต้นขึ้นในปี 1938 จากการเสียชีวิตของ “โรเบิร์ต จอห์นสัน” (8พ.ค.1911 - 16 ส.ค. 1938) บลูส์แมนแห่งตำนานที่เสียชีวิตอย่างลึกลับ กับเรื่องซึ่งเล่าขานกันว่า เขาสิ้นลมลงจาก วิสกี้ใส่ยาพิษ ที่ชายคนหนึ่งอาจวางยาหวังสังหาร จอห์นสัน เพราะความหึงหวงที่ภรรยาตนเองไปแสดงท่าทีสนใจในตัวของนักกีตาร์หนุ่มมากพรสวรรค์

            โรเบิร์ต จอห์นสัน เป็นผู้มีอิทธิพลต่อเพลงบูลส์อย่างมหาศาล ไม่ว่าจะด้วยการร้อง, บรรเลงกีตาร์ และแต่งเพลง ที่ต่อมาตกทอดไปถึงนักดนตรีรุ่นแล้วรุ่นเล่า แต่อีกด้านชีวิตและความเป็นมาของเขาก็เต็มไปด้วยเรื่องลึกลับ ทั้งตำนาน

“การขายวิญญาณให้ซาตาน” เพื่อแลกกับพรสวรรค์ทางดนตรี ก็เป็นอีกเรื่องราวที่ถูกเล่าขานในวงการเพลงบลูส์และร็อคมาช้านาน แม้กระทั่งความตายของเขาในวัย 27 ปี ก็เป็นประเด็นที่ไม่ชัดเจน มีเรื่องเล่าหลาย ๆ อย่าง ที่ ไม่มีใครยืนยันความถูกต้องแน่ชัดได้ แต่ดูเหมือนว่ามันได้กลายเป็นจุดเริ่มต้น อาถรรพ์อายุ 27 ที่มีศิลปินรุ่นลูก รุ่นหลาน มากมายที่ดำเนินรอยตาม

  เจสซี่ เบลวิน (15 ธ.ค. 1932 – 6 ก.พ. 1960)

           ศิลปินนักร้องนักแต่งเพลงแนว อาร์แอนด์บี ชาวอเมริกัน ที่ประสบความสำเร็จในยุค 1950 จนได้รับฉายาว่าเป็น “เอลวิส ผิวดำ” แต่ความรุ่งโรจน์ในชีวิตของ เบลวิน ต้องยุติลงทั้งหมด เมื่อเขาเสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บได้รับ

การกระทบกระเทือนอย่างหนักที่ศีรษะซึ่งเกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนต้องสิ้นลมลงในขณะที่เขามีอายุได้ 27 ปีเท่านั้น

  มัลคัล์ม เฮล (17 พ.ค. 1941 - 30 ต.ค. 1968) 

             สมาชิกผู้ก่อตั้งวงโฟล์กร็อค Spanky & Our Gang ที่โด่งดังอยู่ในช่วงสั้น ๆ ระหว่างปี 1966 - 1968 หรือพูดอีกอย่างว่าเมื่อมือกีตาร์ และสมาชิกผู้ก่อตั้งวงอย่าง มัลคัล์ม เสียชีวิต โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อ เฮล ดื่มจนเมา

และหลับไปที่บ้านของแฟนสาว เมื่อเพื่อน ๆ ในวงพยายามติดต่อให้หญิงคนรักช่วยปลุก เฮล ให้ตื่นขึ้นเธอกลับปฏิเสธ และประมาณอีก 28 ชั่วโมงต่อมา เธอก็พบเขากลายเป็นศพเสียชีวิตไปแล้ว โดยผลการชันสูตรชี้ว่า เฮล เสียชีวิตจากพิษของก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ที่รั่วมาจากเครื่องทำความร้อนนั่นเอง

ไบรอัน โจนส์ (28 ก.พ. 1942 - 3 ก.ค. 1969)

        หนุ่มหน้าตาดีจาก ฮาร์ตฟิลด์ ใน ซัสเซ็กซ์ ผู้มีความสามารถเล่นเครื่องดนตรีได้หลายประเภท และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งวงดนตรี Rolling Stones เมื่อปี 1961 ที่ต่อมากลายเป็นวงร็อคที่ยิ่งใหญ่อมตะมีผลงานต่อเนื่องถึงกว่า 5ทศวรรษ แต่ทั้งหมดนั้น ไบรอัน โจนส์ แทบจะไม่ได้มีส่วนร่วมในความสำเร็จที่ยาวนานนั่นเลย เพราะเขาต้องจากไปก่อนวัยอันควรในขณะที่มีอายุได้ 27 ปี กับอุบัติเหตุจมน้ำตาย ที่มีคนสงสัยว่าอาจเป็นเหตุฆาตกรรม

  จิมิ เฮนดริกซ์ (27 พ.ย. 1942 - 18 ก.ย. 1970) 

         ยอดมือกีตาร์ที่ว่ากันว่า “ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา” เสียชีวิตลงท่ามกลางความเศร้าสลดของแฟนดนตรีทั่วโลก ในขณะที่เขามีอายุได้ 27 ปี ที่มีสาเหตุมาจากการสำลักอาเจียนของตัวเอง หลังจากดื่มเหล้า และยานอนหลับเข้าไป

  เจนิส จอปลิน (19 ม.ค. 1943 - 4 ต.ค. 1970)

          
          นักร้องนักแต่งเพลงสาวจาก พอร์ทอาร์เธอร์ เทกซัส มีช่วงเวลาที่โด่งดังสุดขีดกับดนตรีที่ผสมแนวบลูส์และโฟล์กเข้าด้วยกัน แต่หลังจากมีผลงานอัลบั้มออกมาเพียง 3 ชุดเท่านั้น จอปลิน ได้เสียชีวิตลงอย่างกะทันหันในปี 1970 กับเหตุการณ์ หลังเข้าห้องอัดที่เธอไปดื่มกับสมาชิกในวง หลังจากนั้นจึงขับรถไปค้างยังโมเตลแห่งหนึ่ง แต่เมื่อเธอไม่ได้กลับไปเข้าห้องอัดเสียงในวันรุ่งขึ้น ผู้จัดการส่วนตัวที่เริ่มวิตกกังวล ได้ตัดสินใจไปเช็คที่โมเตลที่เธอใช้ค้างแรมดู จึงพบรถยนต์ Porsche 356C Cabriolet ของเธอจอดอยู่ที่นั่น และพบศพของ จอปลิน นอนอยู่บนพื้นใกล้ ๆ กับเตียงนอน ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตัดสินว่าเป็นการตายที่มีสาเหตุมาจากการเสพเฮโรอินเกินขนาด โดยอัลบั้ม Pearl ผลงานที่ จอปลิน บันทึกเสียงเอาไว้ก่อนเสียชีวิตได้ออกวางจำหน่ายในปีต่อมา และสามารถขึ้นไปถึงอันดับ 1 ของชาร์ตบิลบอร์ดก่อนจะกลายเป็นอัลบั้มเพลงแนวบลูส์ร็อคที่คลาสสิกที่สุดตลอดกาลชุดหนึ่ง

 อลัน “ไบลนด์ อาว์ล” วิลสัน (4 พ.ค. 1943 - 3 ก.ย. 1970) 

               อลัน วิลสัน หรือ ฉายา ไบลนด์ อาว์ล ตำแหน่งร้องนำ และเล่นฮาร์โมนิกา เป็นสมาชิกรุ่นบุกเบิกของ Canned Heat วงบลูส์ร็อคจากลอสแอนเจลิสร่วมกับ บ๊อบ “เดอะ แบร์” ฮิต และ เฮนรี “ซันฟลาเวอร์” เวสไทน์ ที่สร้างชื่อโด่งดังขึ้นมาด้วยกันตั้งแต่ปี 1965 รวมถึงได้ร่วมบรรเลงดนตรีในงานใหญ่ระดับประวัติศาสตร์อย่าง Monterey Pop Festival ในปี 1967 และเทศกาลดนตรี Woodstock เมื่อปี 1969 ด้วย แต่แล้ววิลสันกลับมาเสียชีวิตในปีต่อมา จากการฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอ แม้จะไม่มีจดหมายลาตาย แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าศิลปินหนุ่มผู้มีจุดยืนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ปลิดชีพตัวเองเพราะยอมรับไม่ได้ ที่พบว่าตัวเขาไม่สามารถหยุดการทำลายป่าเรดวูด จากบริษัทค้าไม้ได้

 อาร์เลสเตอร์ “ไดค์” คริสเตียน (13 มิ.ย. 1943 - 13 มี.ค. 1971) 

วงฟังค์ Dyke & the Blazers เป็นวงดนตรีที่โด่งดังขึ้นมาระหว่างปี 1964 - 1971 

โดยมีจุดเด่นอยู่ที่นักร้องนำ อาร์เลสเตอร์ “ไดค์” คริสเตียน ที่ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปินรุ่นพี่อย่าง เจมส์ บราวน์ ซึ่งวงก็ต้องเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดทันทีเมื่อนักร้องคนดังรายนี้เสียชีวิตลง หลังถูกยิงขณะเดินทางด้วยรถยนต์ในแถบเมืองของ ฟินิกซ์

  จิม มอร์ริสัน (8 ธ.ค. 1943 - 3 ก.ค. 1971) 

           
            ศิลปินร็อค, นักแต่งเพลง, กวี ผู้เป็นสัญลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งแห่งยุค 60ในฐานะสมาชิกวง The Doors ที่โด่งดังสุดขีดระหว่างปี 1965 – 1971 และแม้ The Doors จะออกผลงานจนถึงปี 1973 รวมถึงกลับมารวมวงกันในวาระต่าง ๆ อีกหลายครั้ง แต่สำหรับแฟนเพลงส่วนใหญ่ต่างเห็นพ้องว่า วงได้เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด พร้อมกับการเสียชีวิตของ มอร์ริสัน นั่นเอง

          ในช่วงที่นักร้องหนุ่มคนดังมีอายุ 27 ปี เขาถูกพบเป็นศพในอ่างอาบน้ำ ระหว่างเขาพักอยู่ที่กรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส ซึ่งในตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สันนิฐานว่าเป็นการเสียชีวิต ที่มีสาเหตุมาจากอาการหัวใจวาย แต่คนส่วนใหญ่เชื่อว่าน่าจะเป็นอาการที่มีผลจากการใช้ยา หรือดื่มสุราเกินขนาด

  โรเจอร์ ลี ดูร์แฮม (14 ก.พ. 1946 - 27 ก.ค. 1973) 

           อดีตนักบินแห่งกองทัพสหรัฐฯ ในช่วงสงครามเวียดนาม โรเจอร์ ลี ดูร์แฮม ได้รวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ ในวัยเด็กก่อตั้งวงดนตรี Bloodstone ที่เล่นเพลงแนว อาร์แอนด์บี และฟังค์ ขึ้นมาในช่วงต้นยุค 60s และยังคงมีผลงานมาจนถึงปัจจุบัน 

แต่ตัวของ ดูร์แฮม มีโอกาสได้อยู่รวมเป็นสมาชิกของวงเพียง 11 ปีเท่านั้น ภายหลังเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุตกม้าในปี 1973

รอน "พิกเพน" แม็คเกอร์แนน (8 ก.ย. 1945 - 8 มี.ค. 1973) 

            มือคีบอร์ด หนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งวงดนตรีร็อคระดับตำนานของวงการดนตรีสหรัฐฯ อย่าง The Grateful Dead แม็คเกอร์แนน เป็นชาวซาน บรูโน่ แคลิฟอร์เนีย มีพ่อเป็นดีเจเปิดแผ่นเพลงอาร์แอนด์บี และบูลส์ เขาจึงเติบโตมาท่ามกลางอิทธิพลจากดนตรีของคนผิวสีจนได้เข้าสู่วงการดนตรี และสร้างชื่อเสียงขึ้นมาเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับการเริ่มใช้สุราอย่างหนัก จนกลายเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต จากอาการตับล้มเหลวในเวลาต่อมา

 เดวิด ไมเคิล อเล็กซานเดอร์ (3 มิ.ย. 1947 - 10 ก.พ. 1975) 

         อดีตมือเบสยุคเริ่มแรกของวงพังค์ร็อค The Stooges ที่ศิลปินอมดะ อิกกี้ ป๊อป เป็นนักร้องนำ โดย “ซานเดอร์” ต้องจากไปก่อนวัยอันควรในปี 1975 ขณะที่เขามีอายุได้ 27 ปี จากภาวะปอดบวมน้ำ ที่อาจเป็นผลกระทบ

จากการดื่มสุราอย่างหนัก

 พีท แฮม (27 เม.ย. 1947 - 24 เม.ย. 1975)

             ศิลปินหนุ่มชาวเวลช์ ที่รับเหมาหน้าที่ร้องนำ, เล่นกีตาร์ และแต่งเพลงให้กับวงร็อค Badfinger ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง ภายหลังวงมีปัญหาอย่างหนัก

ทั้งเรื่องขัดแย้งภายในวงเอง, ปัญหาการเงิน และการจัดการ จนวงไม่มีรายได้เข้าเลยในช่วงปี 1975 เป็นเหตุให้ แฮม แกนนำของวงอยู่ในห้วงแห่งความสิ้นหวัง และตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองในที่สุด โดยที่เขาไม่ได้มีโอกาสมองเห็นความสำเร็จของผลงานของตนเองอย่างเพลง Without You ที่ แฮม และ ทอม อีแวนส์ เพื่อนร่วมวงเป็นผู้ประพันธ์ได้กลายเป็นบทเพลงที่ถูกนำไปร้องใหม่มากที่สุด จากศิลปินตั้งแต่ แฮร์รี นีลส์สัน จนไปถึง มารายห์ แครีย์ และศิลปินต่าง ๆ อีกกว่า 100 ชีวิตที่เคยนำบทเพลง Without You ไปบันทึกเสียงใหม่มาแล้วซึ่งเรื่องเศร้าของ Badfinger ไม่ได้จบลงแต่เพียงแค่การตาของ แฮม เท่านั้น เพราะต่อมา อีแวนส์ ผู้ร่วมก่อตั้งวงอีกคน ก็เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายเช่นเดียวกัน ภายหลังมีผู้พบศพของเขาในส่วนหลังบ้าน ในสภาพแขวนคอกับต้นหลิวที่อยู่หลังบ้าน ภรรยาของ อีแวนส์ ยอมรับว่าสามีของเธอไม่สามารถทำใจกับการเสียชีวิตของเพื่อนสนิทอย่าง พีท แฮม ได้เลย และเคยเปรยว่า 

"ฉันอยากจะไปที่ซึ่งพีทอยู่ มันน่าจะดีกว่าที่นี่ ..."

แกรี เธน (15 พ.ค. 1948 – 8 ธ.ค. 1975) 

               มือเบสร็อคชาวอังกฤษ ที่เคยเป็นสมาชิกของวงดนตรีหลายวง รวมถึง Uriah Heep ที่เขาเป็นสมาชิกระหว่างปี 1972 - 1975 มีผลงานกับวงถึง 5 อัลบั้ม ครั้งหนึ่ง เธน เคยถูกไฟฟ้าช็อตระหว่างการแสดงที่ ดัลลัส เท็กซัส จนบาดเจ็บสาหัสมาแล้ว แต่สุดท้ายเป็นผลกระทบจากการใช้ยาเสพติดอย่างหนัก ที่ทำให้เธนเริ่มมีปัญหาสุขภาพที่ย่ำแย่ จนไม่สามารถร่วมการแสดงในหลาย ๆ คอนเสิร์ตของวงได้ และถูกไล่ออกจาก Uriah Heep ไปในปี 1975 ซึ่งในปลายปีนั้นเอง ที่เธนได้เสียชีวิตลงจากอาการหัวใจล้มเหลว ที่มีสาเหตุมาจากการใช้เฮโรอินเกินขนาด

มีอา ซาปาตา (25 ส.ค. 1965 - 7 ก.ค. 1993) 

           นักร้องนำของ The Gits วงดนตรีพังค์ร็อคจากซีแอตเทิล เสียชีวิตอย่างน่าเศร้าในปี 1993 จากเหตุฆาตกรรมข่มขืน โดยผลการชันสูตรชี้ว่าเธออาจจะเสียชีวิตจากการถูกซ้อม หรือบีบคอจนถึงแก่ความตาย

          เรื่องราวคดีการเสียชีวิตของ ซาปาตา ได้ถูกนำไปถ่ายทอดในรายการ Unsolved Mysteries ให้อเมริกันชนได้รับทราบในเวลาต่อมา และต้องรอคอยถึง 11 ปีเต็มจึงสามารถค้นหาฆาตกรรมตัวจริง ผู้มีนามว่า เฮซุส ซี. เมซควีย่า ที่ถูกตัดสินโทษจำคุก 36 ปี ได้ในที่สุด

เคิร์ต โคเบน (20 ก.พ. 1967 - 5 เม.ย. 1994) 

            นักร้องนำ, มือกีตาร์และนักแต่งเพลงของวง Nirvana ผู้มีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อดนตรีแนวกรันจ์ในช่วงยุค 90s และเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของคนใน Generation X ที่ชื่อเสียงความโด่งดังนี่เอง ที่สร้างความกดดันมากมายให้กับ โคเบน ในช่วงเวลาท้าย ๆ ของชีวิต โคเบนติดยาเสพติด และได้รับความกดดันทั้งทางด้านอาชีพ และชีวิตส่วนตัว 

            จนเมื่อวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 1994 มีรายงานข่าวการพบศพของโคเบนเสียชีวิตอยู่ที่บ้านของเขาในซีแอตเทิล โดยรายงานระบุอย่างเป็นทางการว่ายอดศิลปินรายนี้ เลือกจบชีวิตตัวเองด้วยการใช้ปืนยิงตัวตาย

คริสเตน ฟอฟฟ์ (26 พ.ค. 1967 - 16 มิ.ย. 1994) 

           นักดนตรีสาวชาวนิวยอร์ก ผ่านชีวิตในมหาวิทยาลัยจากทั้งที่ Buffalo Academy of the Sacred Heart, Boston College ก่อนจะมาจบการศึกษาในสาขาเปียโนคลาสิก และเชลโล ที่ University of Minnesota แต่สิ่งที่ทำให้เธอโด่งดังเป็นที่รู้จักมากที่สุดก็คือ การรับตำแหน่งเบสของวงกรันจ์ Hole ที่มี คอร์ตนีย์ เลิฟ เป็นนักร้องนำ แต่สุดท้าย ฟอฟฟ์ กลับเป็นสมาชิกของ Hole อยู่ได้เพียงปีเดียวเท่านั้น เมื่อเธอเสียชีวิตอยู่ในอพาร์ทเมนต์ของเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ในสภาพที่มีเข็มฉีดยา และอุปกรณ์สำหรับการเสพยาเสพติดตกอยู่กับพื้น โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงความเห็นว่า นักดนตรีสาวเสียชีวิตลงด้วยอาการจากการเสพเฮโรอินเกินขนาด ที่น่าจะเป็นเรื่องของอุบัติเหตุมากกว่าจะเป็นการจบชีวิตตัวเอง